ขอต้อนรับการเยือนญี่ปุ่นยามดอกซะคุระบาน
ในบรรดาฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่นฤดูที่ชาวญี่ปุ่นปิติยินดีกันมากที่สุด
คือฤดูที่ดอกซะคุระเบ่งบาน กล่าวกันว่าชาวญี่ปุ่นชื่นชอบซะคุระมาตั้งแต่ 1,300
ปีก่อนจากหลักฐานเอกสารในยุคนั้น
ทำให้ทราบว่าชาวญี่ปุ่นในสมัยโบราณต่างก็หลงในความงดงามของดอกซะคุระ
ในทุกๆปีกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นจะพยากรณ์ช่วงเวลาที่ดอกซะคุระผลิดอกและประกาศให้ประชาชนทราบล่วงหน้า ซึ่งชาวญี่ปุ่นก็จะวางแผนเดินทางไปชมดอกซะคุระตามช่วงเวลาดังกล่าว ดอกซะคุระจะเริ่มบานทางภาคใต้เรื่อยขึ้นไปทางภาคเหนือ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละปีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ ช่วงเวลาที่ระบุไว้ในบทความนี้จึงเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น เนื่องจากไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า ดอกซะคุระจะบานเมื่อไร ชาวญี่ปุ่นจึงต่างเฝ้ารอวันที่ซะคุระจะผลิดอกบาน ระยะเวลาที่ดอกซะคุระบานแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์โดยทั่วไปจะบานประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากใน 1 ปี ดอกซะคุระจะบานเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น จึงทำให้ดอกซะคุระเป็นดอกไม้ที่ล้ำค่า แม้ในยามที่กลีบดอกซะคุระจะร่วงหล่น ผู้คนก็ได้สัมผัสถึงความงดงามที่เรียกว่า “วะบิซะบิ” (ความงามอันแสนเศร้า) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนของชาวญี่ปุ่นและนี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นหลงใหลในความงามของดอกซะคุระตั้งแต่โบราณมา
ในทุกๆปีกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นจะพยากรณ์ช่วงเวลาที่ดอกซะคุระผลิดอกและประกาศให้ประชาชนทราบล่วงหน้า ซึ่งชาวญี่ปุ่นก็จะวางแผนเดินทางไปชมดอกซะคุระตามช่วงเวลาดังกล่าว ดอกซะคุระจะเริ่มบานทางภาคใต้เรื่อยขึ้นไปทางภาคเหนือ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละปีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ ช่วงเวลาที่ระบุไว้ในบทความนี้จึงเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น เนื่องจากไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า ดอกซะคุระจะบานเมื่อไร ชาวญี่ปุ่นจึงต่างเฝ้ารอวันที่ซะคุระจะผลิดอกบาน ระยะเวลาที่ดอกซะคุระบานแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์โดยทั่วไปจะบานประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากใน 1 ปี ดอกซะคุระจะบานเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น จึงทำให้ดอกซะคุระเป็นดอกไม้ที่ล้ำค่า แม้ในยามที่กลีบดอกซะคุระจะร่วงหล่น ผู้คนก็ได้สัมผัสถึงความงดงามที่เรียกว่า “วะบิซะบิ” (ความงามอันแสนเศร้า) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนของชาวญี่ปุ่นและนี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นหลงใหลในความงามของดอกซะคุระตั้งแต่โบราณมา
ถึงแม้จะมีชื่อว่า
“ซะคุระ” เหมือนกัน แต่ความจริงแล้วซะคุระมีกว่า 300 สายพันธุ์ที่แตกต่างกันที่ สี
รูปทรง และช่วงเวลาที่ดอกผลิบานนั้น จะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์
ดอกซะคุระทั่วไปเป็นสายพันธุ์ที่มีชื่อว่า “โซเมอิโยชิโนะ”
ซึ่งมีมากที่สุดในญี่ปุ่นจึงถูกขยายพันธุ์ไปทั่วโลกได้โดยฝีมือของมนุษย์
จากตั้นไม้เริ่มแรกเพียงต้นเดียวจะเริ่มผลิดอกเร็วที่สุด
ราวกลางเดือนมีนาคมในท้องถิ่นทางภาคใต้สุดของญี่ปุ่นและจะผลิดอกช้าที่สุดราวปลายเดือนพฤษภาคมในท้องถิ่นของภาคเหนือสุดของญี่ปุ่น
แต่ก็มีบางสายพันธุ์ที่ผลิดอกเร็วกว่าหรือช้ากว่า
ดังนั้นหากจะว่าไปแล้วเราสามารถพบเห็นซะคุระได้ไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งในญี่ปุ่น
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนมิถุนายน ดอกซะคุระในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นก็คงผลิบานเต็มที่ในช่วงเวลาเดียวกับเทศกาลสงกรานต์ของไทย
เมื่อถึงฤดูกาลที่ดอกซะคุระผลิบาน
ชาวญี่ปุ่นจะจัดเทศกาลชมดอกไม้หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “โอฮะนะมิ”
พวกเขาจะปูเสื่อใต้ต้นซะคุระทานอาหารอร่อยๆและดื่มเหล้าสังสรรค์ร่วมกันอย่างครื้นเครง
ซึ่งได้กลายมาเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของชาวญี่ปุ่นตั้งแต่ราว 500
ปีก่อนถึงปัจจุบัน พอถึงเทศกาลชมดอกไม้จะเห็นบรรดาพนักงานบริษัทและเหล่านักเรียน
นักศึกษา รวมกลุ่มกับเพื่อนๆส่งเสียงดังครึกครื้นอยู่ใต้ต้นซะคุระ
สถานที่ชมซะคุระที่แนะนำในบทความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
ความจริงหากเข้าสู่ฤดูกาลนี้ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปที่ไหนในญี่ปุ่นก็สามารถชื่นชมดอกซะคุระได้
จึงขอเชิญชวนทุกท่านให้เดินทางไปสัมผัสบรรยากาศในฤดูกาลแห่งดอกซะคุระบานซึ่งสวยงามที่สุดในบรรดาฤดูทั้งสี่ของญี่ปุ่นสักครั้งหนึ่ง
อันดับสถานที่ที่มีต้นซะคุระมากที่สุด
อันดับ 1 ภูเขา “โยชิโนะ” (จังหวัดนาระ) จำนวน
30,000 ต้น
อันดับ 2 ทะเลสาบ “ซะยะมะโกะ” (จังหวัดไซตะมะ)
จำนวน 20,000 ต้น
อันดับ 3 ทางขึ้นภูเขาไฟฟูจิ ด้านเมืองโยชิดะ
(จังหวัดยะมะนะชิ) จำนวน 20,000 ต้น
อันดับ 4 เขื่อน “อิจิฟุสะ” (จังหวัดคุมะโมโตะ)
จำนวน 20,000 ต้น
อันดับ 5 “ซะคุระโนะซาโตะ” ที่ภูเขาเมียวชิ
(จังหวัดกุมมะ) จำนวน 15,000 ต้น
อันดับ 6 สวน “คิบิโคเง็นทะเคเบะ”
(จังหวัดโอคายามะ) จำนวน 5,000 ต้น
อันดับสถานที่ที่คนไปร่วมงานชมดอกซะคุระมากที่สุด
อันดับ 1 เทศกาลชมดอกซะคุระ “ฮิโรซะกิ”
(จังหวัดอะโอโมริ) จำนวน 2,130,000 คน
อันดับ 2 เทศกาลชมดอกซะคุระ “อุเอโนะ”
(กรุงโตเกียว) จำนวน 1,500,000 คน
อันดับ 3 เทศกาลชมดอกซะคุระ “คะคุโนะดะเทะ”
(จังหวัดอะคิตะ) จำนวน 1,331,000 คน
เดินทางง่ายๆโดยรถไฟ JR กับ 13
สถานที่ที่สวยงามและมีชื่อเสียงในการชมดอกซะคุระ
1. สวนไดโนเสาร์
ซะคุระจิมะ ที่ตั้ง : เมืองคะโกชิมะ
จังหวัดคะโกชิมะ
การเดินทาง : โดยเรือเฟอรี่ซะคุระจิมะ จากท่าเรือคะโกชิมะฮงโค (ใกล้สถานีรถไฟ JR
คะโงชิมะ) 15 นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ช่วงเวลาชมดอกซะคุระ : ปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน
ข้อมูลน่ารู้ : เป็นสวนสาธารณะบนภูเขาไฟ “ซะคุระหยิมะ” ซึ่งลอยอยู่ในอ่าว “คิงโค”
ห่างจากฝั่งตัวเมืองคะโกชิมะ 4 กิโลเมตร “ซะคุระหยิมะ” เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ
ปัจจุบันยังมีควันลอยออกมาจากปล่องอยู่เสมอ เมื่อต้นซะคุระจำนวน 3,000 ต้น
ของที่นี่จะผลิดอก ผู้คนจำนวนไม่น้อยจะเดินทางมาเพื่อนั่งชมดอกซะคุระบนสนามหญ้าของสวนสาธารณะแห่งนี้
นอกจากนั้นภายในสวนยังมีหุ่นจำลองไดโนเสาร์ 7 ชนิด
ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่เด็กๆต่างชื่นชอบ
การเดินทาง : ขึ้นรถโดยสารประจำทางจากสถานีรถไฟ JR คุมะโมโตะ 15
นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ช่วงเวลาชมดอกซะคุระ : ปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 500 เยน / เด็ก 200 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : ปราสาทคุมะโมโตะ สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 400 ปีก่อน
เป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีแนวรั้วกำแพงหินที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
เมื่อถึงฤดูชมดอกซะคุระ จะเปิดให้เข้าชมในเวลากลางคืนด้วย
จึงสามารถเพลิดเพลินกับการชมดอกซะคุระยามราตรี
หากท่านได้เดินชมตัวปราสาทที่แสงไฟและดอกซะคุระยามราตรีไปตามถนนที่ประดับด้วยโคมไฟแล้ว
ท่านจะได้ลิ้มรสกับความสุขที่ยากจะหาใดเปรียบ
การเดินทาง : ขึ้นรถโดยสารประจำทางจากสถานีรถไฟ JR อิวาคุนิ
หรือสถานีรถไฟ JR ชินอิวะคุนิ 15 นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 150 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : สะพาน “คินไตเคียว” เป็นสะพานที่มีรูปร่างแตกต่างจากสะพานทั่วไป ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น
เมื่อย่างเข้าเดือนเมษายน บริเวณรอบๆสะพานแห่งนี้จะเต็มไปด้วยสีชมพูของดอกซะคุระ
งานเทศกาลชมดอกซะคุระแห่งสะพาน “คินไตเคียว” จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี
ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากในช่วงฤดูชมดอกซะคุระ
ยามค่ำคืนจะมีการประดับแสงไฟด้วย กิจกรรมที่พลาดไม่ได้สำหรับที่นี่คือ
การล่องเรือชมสะพาน “คินไตเคียว” และดอกซะคุระที่บานสะพรั่ง
การเดินทาง : เดินจากสถานีทจึยะมะ 15 นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ช่วงเวลาชมดอกซะคุระ : ปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 210 เยน / เด็ก 100 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : ในอดีตสวนสาธารณะแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของปราสาท
“ทจึยะมะ” ปัจจุบันยังคงเหลือแนวกำแพงหินที่สวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ชม ในแต่ละปีเมื่อถึงฤดูดอกซะคุระบาน
ที่นี่มีต้นโซเมโยชิโนะซะคุระ 5,000 ต้น ให้ชมดอกซะคุระ
ซึ่งจัดว่าสวยงามที่สุดในแถบภาคตะวันตกของญี่ปุ่นในแต่ละปีเมื่อถึงฤดู
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR ฮิเมจิ 15 นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ช่วงเวลาชมดอกซะคุระ : ต้นเดือนเมษายน-กลางเดือนเมษายน
ข้อมูลน่ารู้ : วัด “โฮริวหยิ” ที่นะระและปราสาท “ฮิเมจิ” แห่งนี้
เป็นสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี
ค.ศ.1993
ภายในตัวปราสาทนอกจากจะมีทรัพย์สมบัติของชาติและมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าเก็บรักษาอยู่แล้ว
ยังมีตำนานและเรื่องเล่าหลงเหลืออยู่อีกมากมาย ปราสาท “ฮิเมหยิ”
ถูกขนานนามว่าเป็นปราสาทที่มีความงดงามมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
ในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปีจะมีการจัดงานชมซะคุระ มีการบรรเลงเครื่องดนตรีโกโตะ
(จะเข้ญี่ปุ่น) และกลองไทโคะ
การเดินทาง : ขึ้นรถโดยสารประจำทางจากสถานีรถไฟ JR เกียวโต
ลงที่ป้าย คิโยมิสึ แล้วเดินต่ออีก 10 นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ช่วงเวลาชมดอกซะคุระ : ปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 200 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : วัด “คิโยมิสึ” เป็นสัญลักษณ์ของ “เกียวโต” เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น
วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อราว 1,200 ปีก่อน ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ในฤดูชมซะคุระกลีบดอกจากต้นซะคุระที่มีอยู่กว่า 1,000 ต้นในวัดแห่งนี้
จะโปรยปรายลงมาอย่างสวยงาม ในช่วงที่ดอกซะคุระบานทางวัดจะประดับไฟยามค่ำคืนเป็นเวลา
1 เดือน ท่านสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของ “ลานคิโยมิสึบุโด” และ
“หอสามชั้น” ที่ถูกปกคลุมไปด้วยดอกซะคุระ
การเดินทาง : ขึ้นรถโดยสารประจำทาง จากสถานีรถไฟ JR คะนะซะวะ 10
นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ช่วงเวลาชมดอกซะคุระ : ต้นเดือนเมษายน-กลางเดือนเมษายน
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 100 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : สวน “เค็นโรขุเอ็ง”
เป็นหนึ่งในสามสวนที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นภายในมีต้นซะคุระ 420 ต้น เมื่อถึงเวลาที่ดอกซะคุระบานเต็มที่จะงดงามมาก
นับได้ว่าเป็นฤดูที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด
ช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ดอกซะคุระบานจะมีการจัดงานเทศกาลชมซะคุระขึ้น
ซึ่งสามารถเข้าชมได้โดยไม่ต้องเสียค่าผ่านประตู
ทั้งยังสามารถชมดอกซะคุระยามราตรีได้อีกด้วย “เค็นโรขุเอ็ง คิขุซะคุระ”
ซึ่งเป็นดอกซะคุระหายากที่มีกลีบมากถึง 300 กลีบของที่นี่ มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
การเดินทาง : ขึ้นรถโดยสารประจำทางจากสถานี JR ทะคะยะมะ 90 นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ช่วงเวลาชมดอกซะคุระ : ปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม
ข้อมูลน่ารู้ : หมู่บ้าน “ชิระคะวะโกะ” ตั้งอยู่ลึกเข้ไปในภูเขา จังหวัดกิฟุ
ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งที่ 6 ในประเทศญี่ปุ่น
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชื่อเสียงมาก
เพราะมีสิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์พิเศษที่ชื่อว่า “กัตโชทจึคุริ” ซึ่งหมายถึงการสร้างบ้านด้วยความร่วมมือกันเป็นหลังคาบ้านลาดลงคล้ายหน้าจั่ว
เพื่อให้ทนทานต่อหิมะและลมในฤดูหนาว แม้ว่าจะมีต้นซะคุระอยู่ไม่มากนัก
แต่ที่นี่ท่านจะได้ชมความงดงามของ “ชิดะเระซะคุระ” ที่มีกิ่งย้อยลงด้านล่างและ
“ไอโอตะซะคุระ” ซึ่งเป็นดอกที่มีกลีบซ้อนทับกันถึง 90 กลีบและมีเกสรตัวเมียมากถึง
15-20 อัน
9. สวนผลไม้โทโงขุชัง
เมืองนะโกยะ ที่ตั้ง : เมืองนะโกยะ
จังหวัดไอจิ
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR โคโรจิ 25 นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR โคโรจิ 25 นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ช่วงเวลาชมดอกซะคุระ : ต้นเดือนเมษายน-กลางเดือนเมษายน
ข้อมูลน่ารู้ : ที่นี่มีต้น “ชิดะเระซะคุระ” อยู่ถึง 1,000 ต้น ในเดือนเมษายนของทุกปี
จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกชิดะเระ ซะคุระ แต่ไม่ใช่แค่ดอกซะคุระเท่านั้น
ที่นี่ท่านจะได้ชมต้นผลไม้นานาชนิดสมกับชื่อสวน ในช่วงเวลาเดียวกับที่ซะคุระผลิดอก
ท่านจะได้เห็นดอกของแอปเปิ้ล สาลี่และท้อ
ที่บานในเวลาเดียวกัน
การเดินทาง : ขึ้นรถโดยสารประจำทางจากสถานีรถไฟ JR อินะชิ 25
นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ช่วงเวลาชมดอกซะคุระ : ต้นเดือนเมษายน-กลางเดือนเมษายน
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 500 เยน / เด็ก 250 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : เมื่อถึงฤดูที่ดอกซะคุระผลิบาน
สวนสาธารณะแห่งนี้จะจัดงานเทศกาลชมดอกซะคุระขึ้นประมาณ 1 เดือน
ในช่วงเวลาดังกล่าวท่านสามารถเพลิดเพลินกับการชมดอกซะคุระยามราตรีได้ถึงเวลา 5
ทุ่ม ซะคุระที่มีชื่อเสียงมากของที่นี่คือ ซะคุระพันธุ์หายากที่มีชื่อว่า
“ทะคะโทโอะโคอิงัง ซะคุระ” ซึ่งมีอยู่ถึง 1,500 ต้น
ดอกของซะคุระพันธุ์นี้จะมีขนาดเล็กและมีสีเข้มกว่า “โชเมอิโยชิโนะ”
หากมีโอกาสได้เดินทางมาที่นี่ ไม่ควรพลาดที่จะถ่ายรูปตรงสะพาน “โออุงเคียว”
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR อุเอโนะ 1 นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ช่วงเวลาชมดอกซะคุระ : ปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน
ข้อมูลน่ารู้ : สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียวและเป็นสถานที่เลื่องชื่อในการชมดอกซะคุระมาตั้งแต่สมัยเอโดะ
เนื่องจากเป็นที่ที่ใกล้ที่สุดที่ชาวโตเกียวสามารถมาชมดอกซะคุระได้ ปัจจุบันสวนสาธารณะแห่งนี้จึงยังคงเป็นที่รักของชาวเมืองโตเกียวอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย
เมื่อถึงเทศกาลชมดอกซะคุระ วันที่แน่นขนัดมากๆมีคนมาชมถึง 2 แสน 4 หมื่นคน
สวนสาธารณะแห่งนี้หาง่ายแม้แต่ชาวต่างชาติก็สามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวก
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR คะคุโนดะเทะ 20 นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ช่วงเวลาชมดอกซะคุระ : กลางเมษายน-ปลายเมษายน
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 100 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : ที่ “คะคุโนดะเทะ” มีหมู่บ้านซามูไรอยู่จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี
ซะคุระที่เลื่องชื่อของที่นี่คือ “ชิดะเระซะคุระ” ภาพของ “ชิดะเระซะคุระ”
ที่ผลิดอกอยู่ในหมู่บ้านซามูไรเก่าแก่
ทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในฉากหนึ่งของภาพยนตร์ซึ่งที่จริงแล้ว
ที่นี่ก็ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครและภาพยนตร์อยู่เนืองๆ ต้นซะคุระส่วนใหญ่ของที่นี่ปลูกมาตั้งแต่สมัยก่อน
บางต้นมีอายุมากกว่า 300 ปี
หากได้เดินอยู่ในหมู่บ้านซามูไรท่ามกลางกลีบดอกซะคุระที่โปรยปรายลงมาคงจะรู้สึกเหมือนได้เป็นซามูไรกับเขาด้วย
13. บริเวณรอบปราสาท ฮิโรซะกิ ที่ตั้ง
:
เมืองฮิโรซะกิ จังหวัดอาโอโมริ
การเดินทาง : ขึ้นรถโดยสารประจำทางจากสถานีรถไฟ JR ฮิโรซะกิ 15 นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
การเดินทาง : ขึ้นรถโดยสารประจำทางจากสถานีรถไฟ JR ฮิโรซะกิ 15 นาที http://www.wismatravel.com/jr.php
ช่วงเวลาชมดอกซะคุระ : ปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม
ข้อมูลน่ารู้ : มีผู้คนเดินทางมาร่วมเทศกาลชมดอกซะคุระของปราสาท “ฮิโรซะกิ”
กันล้นหลามมากถึงปีละ 2 ล้านคน ซึ่งมากที่สุดในญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 2005 มีถึง 2
ล้าน 5 แสนคน งานเทศกาลของที่นี่เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
สาเหตุที่ได้รับความนิยมมากเป็นเพราะความงดงามของภากดอกซะคุระ ปราสาทและภูเขา
“อิวะกิ” นอกจาก “โซเมอิโยชิโนะ” แล้ว ยังมีซะคุระพันธุ์อื่นๆ เช่น
“ชิดะเระซะคุระ” และ “ยะเอะซะคุระ” ให้ได้ชมกันด้วย
ขอบคุณข้อมูลดีๆและภาพสวยๆจาก : องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (www.yokosojapan.org)
ขอบคุณข้อมูลดีๆและภาพสวยๆจาก : องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (www.yokosojapan.org)
วิสม่า พาเที่ยว