2 ตุลาคม 2558

ขอต้อนรับสู่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น



ไปญี่ปุ่นชมใบไม้แดงกันเถอะ
“ใบไม้แดง” หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “โคโย”
ข้อมูลที่ควรรู้ ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ( ก.ย.-พ.ย.) ใบไม้ส่วนใหญ่จะเริ่มเปลี่ยนสี จากสีเขียวเป็นสีเหลืองส้มหรือแดง ก่อนที่จะร่วงหล่นไปจนหมดต้น ใบของต้นไม้บางชนิด เช่น ใบอิโจ (แปะก๊วย) จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ก่อนจะร่วงหล่นจนหมดต้น ทำให้ธรรมชาติในยามนั้นงดงามด้วยสีสันที่สดใสตระการตาน่าภิรมย์ยิ่ง ซึ่งน่าจะเรียกเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมากกว่าฤดูใบไม้ร่วง 



ตามปกติ ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากทางภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ของญี่ปุ่นราวต้นเดือนตุลาคมจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งตรงกันข้ามกับดอกซากุระที่จะเริ่มบานจากท้องถิ่นทางภาตใต้ขึ้นสู่ภาคเหนือ แต่ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี และช่วงเวลาที่ดอกซากุระบานจะคลาดเคลื่อนแตกต่างกันไปในแต่ละปี ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและอถณหภูมิในปีนั้นๆ
ชาวต่างชาติที่ไม่เคยเห็นใบไม้แดงมาก่อน หากได้เห็นภูเขาที่ถูกปกคลุมด้วยใบไม้สีแดง  อาจจะรู้สึกเหมือนกับเห็นภูเขากำลังถูกไฟลุกไหม้ ซึ่งที่จริงผู้คนที่อาศัยอยู่แถบภูเขา ก็เรียกฤดูกาลที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงว่า “ไฟไหม้ภูเขา” เช่นกัน
อาจมีบางท่านคิดว่า หากจะชมใบไม้แดง จะต้องเดินทางไปถึงภูเขา แต่ความจริงแล้วในเมืองใหญ่ๆอย่างโตเกียวและโอซาก้า ก็สามารถชมใบไม้แดงได้เช่นเดียวกัน สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีอันโดเด่นใจกลางเมืองโตเกียว มีอยู่หลายแห่ง เช่น สวนเมจิยิงงูไงเอ็ง ที่มีแนวต้นอิโจ (แปะก๊วย) ปลูกเรียงรายเป็นทางยาว สวนสาธารณะโยโยหงิจะได้เพลินเพลินกับทั้งใบไม้แดงของต้นโมมิจิ(เมเปิ้ล) และต้นอิโจ(แปะก๊วย) ใบสีเหลืองให้ชมอย่างเพลิดเพลิน



ประเทศญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ร่วง ไม่ได้มีแค่สีของใบไม้แดงให้ชมเท่านั้น แต่มีอาหารและผลไม้ชุ่มฉ่ำให้ลิ้มชิมรสในบรรยากาศที่แสนสบายที่สุดจึงเชิญชวนให้ท่านได้ไปสัมผัสกับความงดงาม ของประเทศญี่ปุ่นในยามที่ใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าสัมผัสอย่างยิ่ง
ยินดีต้อนรับสู่ประเทศญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
1.       อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทจึซัน ในภูมิภาคฮอกไกโด
ที่ตั้ง : คามิคาวะ-กุง ฮอกไกโด
การเดินทาง : โดยรถประจำทางจากสถานีรถไฟ JR คามิคาวะ ใช้เวลา 30 นาที
ช่วงเวลา : กลางเดือน ก.ย. – ปลายเดือน ก.ย.
                ข้อมูลน่ารู้ กล่าวกันว่า ที่นี่เป็นสถานที่ที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนทุกที่ในญี่ปุ่น ทิวทัศน์ที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีเขียวของใบไม้เรียว และสีเหลืองแดงของใบไม้กว้าง สลับสีกันอย่างงดงามดังภาพวาดของศิลปินเอก ใบไม้บนภูเขาคุโรดาเกะนั้นใช้เวลากว่า 1 เดือน ในการเปลี่ยนสีเป็นสีแดงไล่จากยอดเขาเรื่อยลงมาถึงจุดขึ้นกระเช้าตรงเชิงเขาจุดชมใบไม้แดงที่งดงามที่สุดอยู่ตรงปากทางขึ้นเขาที่มีชื่อว่า กินเซ็นได บริเวณนั้นยังมีแหล่งน้ำพุร้อนอยู่กว่า 10 แห่ง เช่น น้ำพุร้อนโซอุงเคียว-อนเซ็น หลังจากที่ชมใบไม้แดงแล้ว ท่านยังสามารถแช่น้ำพุร้อนกลางแจ้ง เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติที่งดงามของฮอกไกโดได้ด้วย
2.       ทะเลสาบ โทวาดาโกะ ในภูมิภาคโทโอขุ
ที่ตั้ง : เมืองโทวาดะ จังหวัดอาโอโมริ
การเดินทาง : โดยรถประจำทางจากสถานีรถไฟ JR โมริโอกะใช้เวลา 2 ชั่วโมง 15 นาที
ช่วงเวลา : กลางเดือน ต.ค.-ปลายเดือน ต.ค.
ข้อมูลน่ารู้ ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบแบบCaldera ชื่อ Caldera นี้เป็นภาษาสเปน มีความหมายว่าหม้อ ใช้เรียกพื้นที่ตรงกลางระหว่างภูเขาสองลูกที่มีลักษณะยุบลงเป็นทรงคล้ายหม้อ ซึ่งเกิดจากแรงระเบิดของภูเขาไฟ ทะเลสาบโทวาดาโกะ นั้นล้อมรอบไปด้วยภูเขา สามารถขึ้นเรือท่องเที่ยวชมทัศนียภาพโดยรอบของทะเลสาบที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยใบไม้แดง สัญลักษณ์ของทะเลสาบโทวาดาโกะแห่งนี้คือ รูปสลักสาวงาม (โอโตเมะ โนะโซ) ซึ่งเป็นผลงานของ ทากามุระ โคทาโร่ ศิลปินระดับชาติของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ควรพลาดในการถ่ายภาพเป็นที่ระลึก บริเวณรอบๆมีโรงแรม และร้านขายของที่ระลึก ซึ่งจะคึกคักมากเป็นพิเศษเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้แดง ทั้งยังสามารถเพลิดเพลินกับการแช่น้ำพุร้อนโทวาดาโกะ และการเก็บแอบเปิ้ลผลไม้ขึ้นชื่อของอาโอโมริอีกด้วย
3.       ซาโอ ในภูมิภาคโทโฮขุ
ที่ตั้ง : เมืองยามางาตะ จังหวัดยามางาตะ
การเดินทาง : โดยรถโดยสารประจำทางจากสถานีรถไฟ JR ยามางาตะ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
ช่วงเวลา : กลสงเดือน ต.ค. – ปลายเดือน ต.ค.
ทข้อมูลน่ารู้ เทือกเขาซาโอ เป็นเทือกเขาสวยงามเลื่องชื่อในแถบภาตตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ทอดผ่านจังหวัดมิยาหงิ และจังหวัดยามางาตะ นอกจากนั้นในท้องถิ่นนี้ยังมีน้ำพุร้อนเลื่องชื่อหลายแห่ง ท่านสามารถใช้บริการกระเช้าของลานสกีฤดูหนาว เพื่อขึ้นไปชมใบไม้แดงจากมุมสูงได้  การขับรถชมใบไม้แดงเพื่อชมเส้นทาง ซาโอ-เอโคไลน์ ที่เชื่อมระหว่างจังหวัดมิยาหงิและจังหวัดยามางาตะ ตลอดเส้นทางมีความยาวทั้งสิ้น  26 กม.เส้นนี้ ท่านจะได้เต็มอิ่มกับการชื่นชมความงามของใบไม้แดงอย่างเต็มตา เนื่องจากในฤดูหนาวจะมีหิมะตกหนัก จึงต้องปิดให้บริการในเส้นทาง ช่วงเดือน พ.ย. ถึงเดือน เม.ย. นับว่าเส้นทางเส้นนี้ คุ้มค่ากับการมาเยือนเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่ไม่ถนัดการปีนเขา หรือ ไม่ชอบเดินเท้า ก็สามารถเพลิดเพลินกับการชมใบไม้แดงที่นี่ได้อย่างเต็มที่
4.        น้ำตก อากิอุโอทากิ  ในภูมิภาคโทโฮขุ
ที่ตั้ง : เมืองเซ็นได จังหวัดมิยางิ
การเดินทาง : โดยรถประจำทางจากสถานีรถไฟ JR เซ็นได ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
ช่วงเวลา : กลางเดือน ต.ค. – ต้นเดือน พ.ย.
 ข้อมูลน่ารู้ แม้ประเทศญี่ปุ่นจะมีน้ำตกที่สวยงามอยู่มากมายหลายแห่ง แต่น้ำตกอากิอุอทากิ ที่มีสายน้ำกว้าง 6 เมตร และตกลงมาจากความสูงกว่า 55 เมตรแห่งเมืองเซ็นไดนี้ ได้รับการกล่าวขานว่ามีความงามเป็นพิเศษเมื่อถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี มวลหมู่ต้นไม้รอบๆน้ำตกจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีแดง เขียว และเหลือง ทำให้ทิวทัศน์บริเวณนั้นงดงามประหนึ่งภาพในฝัน ใบของต้นอิโจ (แปะก๊วย) และ โมมิหยิ (เมเปิ้ล) ซึ่งเป็นตัวแทนของใบไม้แดง สลับสีกันดูงามตายิ่ง แถบอากิอุ ยังขึ้นชื่อในเรื่องน้ำพุร้อน  และละแวกใกล้เคียงยังมีแหล่งรวมศิลปหัตถกรรม พื้นบ้านของอากิอุ ซึ่งสาธิตวิธีการผลิตและจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองขึ้นชื่อของเซ็นได เช่น ตุ๊กตาโคเคชิ และตู้ไม้เซ็นไดเป็นต้น
5.       บันไดอาซุมะ-สกายไลน์ ในภูมิภาคโทโฮขุ
ที่ตั้ง : เมืองฟุกุชิมะ จังหวัดฟุกุชิมะ
การเดินทาง: โดยรถยนต์ จากสถานีรถไฟ JR ฟุกุชิมะ ใช้เวลา 40 นาที
ช่วงเวลา : กลางเดือน ต.ค. – ปลายเดือน ต.ค.
 ข้อมูลน่ารู้ บันไดอาซุมะ-สกายไลน์ เป็นชื่อถนนเส้นทางพิเศษที่ให้บริการนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เป็นเส้นทางที่เหมาะกับการขับรถชมใบไม้แดงเป็นอย่างยิ่ง สูงจากระดับน้ำทะเล 1,500 ม. และมีความยาวทั้งสิ้น 29 กม. เชื่อมระหว่างแหล่งน้ำพุร้อนทากายุในเมืองฟุกุชิมะ กับเส้นทางขึ้นเขาทสึจิยุ จากจุดชมวิวอาซุมะฮักเก มองลงมาจะเห็นป่าใบไม้แดงที่แสนงดงาม ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก เดินทางมาชื่นชมความงดงามของที่นี่ น้ำพุร้อนที่อยู่ในละแวกนั้น ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไปด้วย
6.       นิกโก้ ในภูมิภาคคันโต
ที่ตั้ง : เมืองนิกโก้ จังหวัดโทจิงิ
การเดินทาง : โดยรถโดยสารประจำทาง จากสถานีรถไฟ JR นิกโก้ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
ช่วงเวลา : กลางเดือน ต.ค.- ปลายเดือน ต.ค.
 ข้อมูลน่ารู้ นิกโก้เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของศาลเจ้านิกโก้โทโชงู ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่นิกโก้มีจุดชมใบไม้แดงหลายแห่ง ในตัวเมืองมีต้นอิโจ (แปะก๊วย) ขึ้นเรียงรายและตรงถนนขึ้นเขาที่มีชื่อว่า อิโรฮะซะกะ ก้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเส้นทางชมใบไม้หลากสีที่งดงามที่สุดในภูมิคันโต และสถานที่ที่อยากแนะนำให้เดินทางไปชม คือ น้ำตกริวซุ  ซึ่งอยู่ใกล้กับทะเลสาบจูเซ็นจิโกะ “ริวซุ” มีความหมายว่า หัวมังกร เนื่องจากด้านหน้าของแอ่งน้ำตกมีหินก้อนใหญ่ขวางทางอยู่ ทำให้กระแสน้ำที่ไหลมาถึงจุดนั้น ถูกแยกออกเป็นสองทาง ลักษณะคล้ายหัวมังกร ตรงส่วนหัวของมังกรมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมอยู่ เมื่อใบไม้บริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง ก็จะทำให้มองเห็นเป็นหัวมังกรสีแดงด้วย
7.       สวน เมจิยิงงูไกเอ็ง ในภูมิภาคคันโต
ที่ตั้ง : เขตมินาโตะ กรุงโตเกียว
การเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานีรถไฟ JR ชินาโนะมาจิ หรือสถานีรถไฟใต้ดิน ไกเอ็งมาเอะ
ช่วงเวลา : กลางเดือน พ.ย. – ปลายเดือน พ.ย.
 ข้อมูลน่ารู้ แม้แต่ในกลางกรุงโตเกียว ท่านก็สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ที่สวน”ยิงงูไกเอ็ง”แห่งนี้  มีต้นอิโจ (แปะก๊วย) กว่า 140 ต้น ขึ้นเรียงรายทั้งสองข้างทางอย่างสวยงาม  อิโจ(แปะก๊วย) จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ในช่วงเวลานี้จะมีการจัด “งานเทศกาลชมใบอิโจ” ขึ้นในกรุงโตเกียว ไม่เพียงแต่สวนยิงงูไดเอ็ง ยังสามารถชมใบไม้สีแดงที่สวนชินจูกุเกียวเอ็ง สวนสาธารระโยโยหงิ สวนสาธารณะ ฮิบิยะ  ฯลฯ ได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับท่านที่มีดอกาสเดินทางมาติดต่อธุรกิจที่ญี่ปุ่น แต่ไม่มีเวลาเดินทางไปนอกเมืองจะแวะเวียนไปชมใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างสะดวก
8.       ทะเลสาบ คาวางุจิโกะ ในภูมิภาคจูบุ
ที่ตั้ง : มินามิทสึรุ-กุง จังหวัดยามานาชิ
การเดินทาง : ดดยรถยนต์ จากสถานีรถไฟด่วนสายฟูจิคิวโค คาวางุจิโกะ ใช้เวลา 20 นาที
ช่วงเวลา : ต้นเดือน พ.ย. – กลางเดือน พ.ย.
 ข้อมูลน่ารู้ ทะเลสาบคาวางุจิโกะ นอกจากจะเป็นสถานที่ขึ้นชื่อในการชมภูเขาไฟฟูจิคิวโค  ซึ่งทัวร์จากประเทศไทยนิยมพานักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมแล้ว ยังเป็นสถานที่ชมใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงมากอีกด้วย ภูเขาไฟฟูจิที่ยอดเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ตัดกับสีของใบไม้แดงนั้น เป็นภาพทิวทัศน์ที่แสดงออกถึงความเป็นญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ใบไม้แดงในแถบนี้เกือบทั้งหมดเป็นใบของต้นโมมิจิ (เมเปิ้ล) ในช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มที่จะมีการจัดงานเทศกาลชมใบโมมิหนิขึ้น ในค่ำคืนช่วงเวลาที่มีงาน จะประดับไฟจนถึงประมาณสี่ทุ่ม ทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกราวกับอยู่ในฝัน ในละแวกใกล้เคียงยังมี สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ศิลปะ อยู่มากมายหลายแห่ง และใกล้กับแหล่งน้ำพุร้อนฟูจิคาวางุจิโกะ ยังมีโรงแรมแบบญี่ปุ่นที่มีบ่อน้ำพุร้อนให้บริการอยู่มากมาย
9.       ที่ราบสูง ชิราคาบะ และวีนัสไลน์ ในภูมิภาคจูบุ
ที่ตั้ง : คิตะซากุ-กุง จังหวัดนางาโนะ
การเดินทาง : โดยรถประจำทางจากสถานีรถไฟ JR ซะคุไดระ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
ช่วงเวลา : กลางเดือน ต.ค. – ปลายเดือน ต.ค.
    ข้อมูลน่ารู้ จังหวัดนางาโนะมีภูเขาสูงมากมาย ทำให้ฤดูหนาวมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเล่นสกี ส่วนในฤดูใบไม้ร่วง ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมใบไม้แดงกันเป็นจำนวนมาก หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในจังหวัดนางาโนะ คือ ที่ราบสูงชิราคาบะ จุดชมใบไม้แดงที่อยู่บนที่ราบสูงแห่งนี้ได้แก่ ทะเลสาบทาเตชินาโกะ และภูเขาทาเตชินะ ผู้ที่ไม่สะดวกที่จะเดินเท้าขึ้นไป ก็สามารถใช้บริการกอนโดร่าลิฟท์ จากฟาร์มทาเตชินะ  ขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ ในการเดินทางไปยังที่ราบสูงชิราคาบะนั้น จะต้องใช้เส้นทางพิเศษ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า วีนัสไลน์ ซึ่งเป็นถนนที่มีความยาวทั้งสิ้น 76 กม. ท่านจะได้เพลิดเพลินกับใบไม้แดง ระหว่างที่รถวิ่งอยู่บนเส้นทางวีนัสไลน์ จากที่ราบสูงชิราคาบะไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างใกล้เคียง นอกจากรีสอร์ทชิราคาบะ และแหล่งน้ำพุร้อนแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆอีก เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ  และสวนพฤษศาสตร์
10.   อะระชิยะมะ ในภูมภาคคันไซ
ที่ตั้ง : เมืองเกียวโต จังหวัดเกียวโต
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR ซะงะอะระชิยะมะ ใช้เวลา 10 นาที
ช่วงเวลา : กลางเดือน พ.ย. – ปลายเดือน พ.ย.
   ข้อมูลน่ารู้  ในเมืองหลวงเก่าเกียวโต ก็มีสถานที่ชมใบไม้แดงหลายแห่งเช่นกัน แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ ใบไม้แดงที่อะระชิยะมะทุกคนที่เดินทางมาที่นี่จะต้องไม่พลาดที่จะถ่ายรูปกับสะพานโทเง็ทสึเคียว โดยมีภูเขาอะระชิยะมะเป็นฉากหลัง นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังนิยมใช้บริการรถไฟโทร็อกโกะ เพื่อชมใบไม้แดงที่อะรพชิยามะอีกด้วย เนื่องจากในเกียวโตมีวัดและศาลเจ้าอยู่เป็นจำรวรมาก จึงสามารถชมความงามของใบไม้แดงในวัดต่างๆได้  เช่น วัดคิโยมิซุ วัดกิงคาคุจิ ศาลเจ้าชิโมงาโมะ วัดนันเซ็นจิ เป็นต้น
11.   ศาลเจ้า โคโตฮิระงู ในภูมิภาคชิโกกุ
ที่ตั้ง : นากาตาโดะ-กุง จังหวัดคางาวะ
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR โคโตฮิระ ใช้เวลา 15 นาที
ช่วงเวลา : กลางเดือน พ.ย. – ปลายเดือน พ.ย.
  ข้อมูลน่ารู้  ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเกาะชิโกกุกว่า 3 ล้านคน สถานที่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของที่นี่คือ ศาลเจ้าโคโตฮิระงู แต่คนญี่ปุ่นเรียกที่แห่งนี้ว่า “คอมปิระซัง”  ศาลเจ้าโฮโตฮิระงูนั้นตั้งอยู่ลึกเข้าไปใน ภูเขาโซซุ ผู้ที่เดินทางมาไหว้พระที่นี่จะต้องขึ้นบันไดกว่า 800 ขั้น ซึ่งตลอกทางขึ้นบันได ท่านจะได้ชมความงามของใบเมเปิ้ลสีแดง ในวันที่ 10 พ.ย. ของทุกปี จะมีการจัดงานเทศกาลชมใบไม้แดงขึ้น ซึ่งงานเทศกาลของที่นี่จะแตกต่างจากงานเทศกาลของที่อื่นตรงที่ จะมีการทำพิธีอย่างเคร่งครัดตามแบบอย่างที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ ภูมิภาคนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องเส้นอุด้ง ซึ่งท่านสามารถลองทำเส้นอุด้งด้วยตนเองได้ นอกจากนั้นยังสามารถตระเวนไปชิมเส้นอุด้งที่ขึ้นว่าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นตามร้านต่างๆได้อีกด้วย
12.   สวนสาธารณะโมมิจิดะนิ เกาะมิยะจิม่า
ที่ตั้ง : ซะเอกิ – กุง จังหวัดฮิโรชิม่า
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR มิยะหยิม่างุจิ 5 นาที เพื่อขึ้นเรือข้ามไปยังเกาะมิยะหยิม่า แล้วเดินต่อไปอีก 20 นาที
ช่วงเวลา : กลางเดอืน พ.ย. – ปลายเดือน พ.ย.
  ข้อมูลน่ารู้ สวนสาธารณะโมมิจิดะนิ ตั้งอยู่ด้านหลังศาลเจ้า อิทจึคุชิม่า ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ในสวนแห่งนี้ในต้นโมมิจิ (เมเปิ้ล) กว่า 200 ต้น จุดที่สวยที่สุดคือ สะพานโมมิจิ ตรงทางเข้าสวน ในทุกๆปีจะมีการจัดงานเทศกาลชมใบไม้แดง แต่จะอยู่ภายในช่วงกลาง – ปลายเดือน พ.ย. ซึ่งวันที่จัดจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี ของฝากที่มีชื่อของฮิโรชิม่าคือ “โมมิจิมันจู” (ขนมไข่รูปโมมิจิ) ซึ่งมีจำหน่ายที่นี่มากมาย
13.   น้ำพุร้อน อุนเซ็น ในภูมิภาคคิวชู
ที่ตั้ง : เมืองอุนเซ็น จังหวัดนางาซากิ
การเดินทาง : โดยรถประจำทางจากสถานีรถไฟ JR อิซะฮะยะ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
ช่วงเวลา  : ปลายเดือน ต.ค. – ต้นเดือน พ.ย.

ข้อมูลน่ารู้  สีแดง ส้ม และเหลือง ของใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ มีความงดงามมาก ถึงขนาดมองหาไกลๆอาจเข้าใจผิดคิดไปว่าเป็นดอกไม้ได้ เป็นเพราะที่นี่มีต้นไม้ที่ใบเปลี่ยนสีถึง150 กว่าชนิด หากมองลงมาจากยอดเขาคุนิมิดาเกะ ภาพที่เห็นจะยิ่งสร้างความประทับใจมิรู้ลืม แถมมีชื่อเสียงมากในฐานะที่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนแห่งแรกในญี่ปุ่น ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติ จึงมีทั้งโรงแรมแบบญี่ปุ่นและโรงแรมแบบสากล เปิดให้บริการอยู่มากมาย สามารถเลือกที่ถูกใจได้ นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่นๆอีก เช่น ฮุสเทนบอส ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่จำลองบรรยากาศแบบยุโรปในยุคกลาง ที่จะแวะไปสัมผัสบรรยากาศได้

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น
เรียบเรียงโดย : บริษัท วิสม่า ทราเวล จำกัด 
วิสม่า พาเที่ยว                    

สู่โลกเหนือจินตนาการ ทะยานสู่ท้องฟ้า TOKYO SKY TREE

สู่โลกเหนือจินตนาการ ทะยานสู่ท้องฟ้า TOKYO SKY TREE


      Tokyo Sky tree เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของโตเกียว หอคอยนี้ยังได้รับการรับรองว่าเป็น “หอคอยที่สูงที่สุดในโลก”ในบันทึกสถิติโลกกินเนส์ด้วย ด้วยการผสานรวมทักษะของชาวญี่ปุ่นสมัยโบราณ หอคอยสูง 634 ม. เป็นสัญลักษณ์ของ “ มูซาชิ” ซึ่งเป็นทั้งชื่อเดิมของพื้นที่แถบนี้และเป็นการอ่านออกเสียงตัวเลข “634” ในภาษาญี่ปุ่น ภาพลักษณ์อันสูงสง่าตราตรึงใจของ Tokyo SkyTree สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ทำให้ตึกระฟ้าที่อยู่ใกล้เคียงเล็กลงไปเลย ไปที่ Sky และ สำรวจ Tokyo Skytree เพื่อประสบการณ์ที่ยากจะลืม!!!! 


  • หอกระจายคลื่นที่สูงที่สุดในโลก 634 ม.
  • TEMBO GALLERIA 450 ม.
  • TEMBO DECK 350 ม.
  • TEMBO Shuttle
  • Tembo Shuttleให้บริการระหว่าง TOKYO SKYTREE Tembo Deck และ TOKYO SKYTREE Tembo Galleria จะมีการแสดงแสงสีตอนกลางคืนเรียกว่า Tembo Shuttle Up Light
  • Tembo Shuttle ลิฟต์ความเร็วสูง 4 ตัว ที่ขึ้น 600 เมตรได้ใน 1 นาทีขึ้นสู่ TOKYO SKYTREE Tembo DecK เป็นลิฟต์ที่ตุผู้โดยสาร 40 คนที่เร็วที่สุดในญี่ปุ่น
  • TOKYO SKYTREE EAST TOWER (ชั้น 31) 150 ม.

***ชมผู้คน 30 ล้าน คนจากดาดฟ้า***

      TOKYO SKYTREE Tembo Deck มี 3 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ที่ความสูง 350 ม. เหนือพื้นดิน นอกเหนือจากมุมมองที่ตระการตาที่มองออกไปได้ประมาณ 70 กม. แล้วยังมีพื้นที่สำหรับผ่อนคลายอีกหลายแห่งพร้อมให้บริการ เช่น ร้านกาแฟ ร้านค้า และร้านอาหาร เพลิดเพลินไปกับมุมมองพาโนรามาของดตเกียวที่ระดับความสูงที่เหลือเชื่อ

      Tokyo Space –Time Navigation 350 มีจอแสดงผล 4 ตัว ที่ติดตั้งอยู่บนชั้น 350 แผงควบคุมระบบสัมผัสจะอธิบายทิวทัศน์ที่คุฯจะเห็นได้จาก SKYTREE

      หน้าจอพับที่มีภาพวาด “ EDO HITOMEZU BYOUBU “ 350 มุมมองจากด้านบนที่วาดโดยนักวาดภาพชั้นเอกแห่งยุคเอโดะ Keisai Kuwagata นั้นเหมือนกับมุมมองหอคอยอย่างน่าเหลือเชื่อ พบกับความคิดสร้างสรรค์ และการเปลี่ยนแปลงของประวัติศาสตร์ด้วยตัวคุณเอง

พื้นกระจก 340
      ดูวิวที่น่าตื่นเต้นซึ่งสูง 340 ม. จากด้านล่างผ่านแผงกระจกใต้เท้าคุณ วางใจได้เลยว่าคุณยืนอยู่บนกระจกที่ทนทานที่รับน้ำหนัก 800 กก.ต่อตารางเมตร
ชั้นที่ 450 และ 445
ชั้นที่ 445 และ 450 เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินกระจกที่เอียงชันที่จะทำให้คุณรู้สึกราวกับคุณกำลังเดินขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะขึ้นบันไดเลื่อนวิวจาก Sorakara Point จุดโซระคาระที่จุดสูงสุดของห้องชมวิว จะอยู่ในความทรงจำของคุณตลอดไป

การถ่ายภาพที่ระลึก Tembo Galleria ชั้น 445 ที่Tembo Gallerria คุณถ่ายภาพที่ระลึกได้บนชั้นที่ 445 ซึ่งจะได้มุมมองที่น่าประทับใจและทิวทัศน์ที่สวยงาม ภาพถ่ายที่จะเก็บวิวเบื้องล่างจ่ายเงินเมื่อซื้อรูปถ่ายเท่านั้น 

Sorakara Point 450 ถือว่าเป็นจุดสูงสุดที่ระดับความสูง 451.2 ม.ไม่เพียงแค่เห็นวิวที่น่าประทับใจเท่านั้น แต่ยังได้เห็นวิธีที่แสงและกระจกสร้างความรู้สึกที่ไม่ซ้ำใคร

จุดใดที่ควรเยี่ยมชม
อาหารกูร์เม่ ร้านค้าและจุดน่าเยี่ยมชม  มีร้านอาหารร้านค้าอย่างเป็นทางการ และสถานที่อีกมากมายที่คุรไม่อยากพลาดที่ Tokyo Skytree ได้แก่ Skytree Café ร้านอารหารบน Tembo Deck คุณจะได้ดื่มด่ำวิวและอาหารชั้นเลิศ 

Skytree Café  ชั้นที่ 350 และ 340  เวลาทำการ : 08:00-21:45 (ออเดอร์สุดท้าย : 21:15)
Skytree Café อยู่บนชั้น 350 และ 340 ในTembo Deck  ร้านกาแฟที่ชั้น 350 เป็นบริเวณยืนและขายซอฟท์ครีมและเครื่องดื่มเท่านั้น ร้านกาแฟที่ชั้น 340มีโต๊ะเก้าอี้และวิวที่สวยงาม ขายอาหารมื้อเบาๆ และขนมหวาน ไม่รับจอง

Sky Restaurant 634 ชั้นที่ 345   เวลาทำการ : 10:00 -23:00(ออเดอร์สุดท้าย : 20:30)
เลือกรับประทานอาหารหลากหลายที่ใช้วิธีปรุงแบบใหม่ในการเตรียมอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ดื่มด่ำค่ำคืนที่หรูหราพร้อมมองออกไปสู่ออกไปดูสะพานสายรุ้ง ย่านโอไดบะริมอ่าว และตึกระฟ้ายามค่ำคืน ไม่รับจอง

Tel:03-3623-0634 ( เวลาทำการ : 10:00 – 18:00 )

ร้านค้าของ Skytree –The Skytree Shop
เวลาทำการ : 8:00-21:45 (ชั้น1/5), 8:00-21:30 (ชั้น 345 )

ร้านค้าอย่างเป็นทางการให้บริการที่ 3 ชั้น ร้านค้าทุกร้านมีของที่ระลึกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอย่างเป็นทางการ หนังสือความรู้เกี่ยวกับ Tokyo Skytree ไปจนถึงสินค้าที่พัฒนาร่วมกับร้านค้าชื่อดัง ซื้อสินค้าที่ขายที่นี่ที่เดียวเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

ร้านค้าและร้านอาหารที่มีทุกสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด Tokyo Skytree Town 
คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่กว้างถึง 400 เมตร จากฝั่งตะวันออกไปตะวันตก เชื่อมต่อสถานี Tokyo Skytree และสถานี Oshiage Tokyo Solamachi มีร้านค้ากว่า 300 ร้าน พร้อมอะควาเรียมและหอดูดาว มีอะไรมากมายให้คุณดูที่คุณคงเที่ยวไม่หมด ภายใน 1 วัน อย่าพลาด Tokyo Skytree Town! 

*** บริการพิเศษสำหรับผู้เข้าชมนานาชาติเท่านั้น Fast Skytree Ticket
  • ไม่ต้องจอง
  • ซื้อตั๋วด่วน
  • เคาน์เตอร์ตั๋วพิเศษสำหรับผู้เข้าชมนานาชาติเท่านั้น

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : http //www.tokyo-skytree.jp/en/

ศูนย์ข้อมูล TOKYO SKYTREE เวลาทำการ  08:00 – 22:00
*เปิด 365 วัน ชั่วโมงทำการอาจเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาของปี
*ไม่รวมวันที่มีการแสดงพลุ เทศกาลปีใหม่ และวันพิเศษอื่นๆ
*TOKYO SKYTREE อาจหยุดการทำงานของลิฟต์หรือปิดลิฟต์ได้เนื่องจากลมแรงหรือสภาพภูมิอากาศที่ไม่ดีเพื่อตรวจสอบและบำรุงรักษา หรือด้วยเหตุผลอื่นๆ 



ตั๋วเข้าชม
วิธีซื้อตั๋วเข้าชม ( นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2015)
Tembo DECK
  • ตั๋ววันเดียว ซื้อที่เค้าน์เตอร์ตั๋วชั้น 4 ( ปิดทำการ 21.00 น.) เจ้าหน้าที่อาจแจกบัตรคิวเรียงหมายเลขไว้ใช้ซื้อตั๋ววันเดียวเมี่อใช้เวลารอคิวนาน
  • ตั๋วระบุวัน / เวลา ตั๋วที่ระบุวันที่และเวลามีจำหน่ายล่วงหน้าที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Tokyo Skytree หรือเครื่องจำหน่ายตั๋วในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในญี่ปุ่น

*คุณซื้อบัตรล่วงหน้าได้ 2 เดือนเวลา 10:00 น. ก่อนวันที่เข้าชม ( แบบมาก่อนได้ก่อน )
*เลือกเวลาที่ต้องการได้จากเวลาเข้าชมที่ระบุไว้เวลาทุกๆ 30 นาทีตั้งแต่ 8.00 – 20.30 
*ราคาส่วนลดสำหรับหมู่คณะใช้ได้สำหรับการจองล่วงหน้า 15 คนขึ้นไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Tokyo Skytree หรือโทรหาศูนย์การจองแบบหมู่คณะ Tokyo Skytreeที่ 03-3626-0634
  • ตั๋วแบบระบุวันที่ ตั๋วเหล่านี้รวมอยู่ในแพ็กเกจการท่องเที่ยวที่จัดสรรโดยเอเจนซี่ท่องเที่ยว โรงแรมอย่างเป็นทางการของ Tokyo Skytree และแผนการเข้าพักของโรงแรมพันธมิตร และคุณจะซื้อเวาเชอร์สำหรับตั๋วเข้าชมที่ระบุวันได้แบบล่วงหน้าเท่านั้น // เวาเชอร์ตั๋วเข้าชมไม่มีการจำหน่ายแยก
  • Fast Skytree Tickets นี่เป็นตั๋วแบบเจาะจงไปยัง Tembo Deck (ชั้น 350) สำหรับผู้เข้าชมต่างชาติ ตั๋วนี้ทำให้คุณข้ามการซื้อตั๋ววันเดียวและเข้าชมได้ทันทีและแสดงหนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวอื่นๆ ที่เคาน์เตอรื Fast Skytree Tickets โดยเฉพาะ //โดยจะไม่รวมเข้ากับตั๋ว Tembo Galleria ( ชั้น 450 ) หรือการเข้าชมเมื่อคุณกลับจากหอสังเกตุการณ์

Tembo Galleria
  • ตั๋ววันเดียว ซื้อที่เคาน์เตอร์ตั๋วชั้น 350 ( ปิดทำการ 21.20 น.)

***ไม่รับซื้อล่วงหน้าหรือจองแบบระบุวัน/เวลาเป็นรายบุคคลหรือหมู่คณะก็ตาม
***เด็กอายุ 3 ปี หรือต่ำกว่านั้นไม่เสียค่าเข้าชม
***ผู้ติดตามผู้เข้าชมที่มีความทุพพลภาพจะเสียค่าเข้าชมเท่ากับผู้มีความทุพพลภาพ
***Fast Skytree Ticket ไม่มีอัตราค่าเข้าชมสำหรับผู้ที่เข้าชมที่มีความทุพพลภาพ
***ตั๋วไม่อาจคืนเป็นเงิน แลกคืน หรือออกใหม่ได้หากมีปัญหาด้านสภาพอากาศหรือกรณีอื่น
***ราคาส่วนลดสำหรับหมู่คณะใช้ได้สำหรับการจองล่วงหน้า 15 คนขึ้นไป
***หากต้องการทราบส่วนลด โปรดไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Tokyo Skytree
***ห้ามเข้าใหม่หากผู้เข้าชมออกไปแล้ว

รถสายตรงไปยัง Tokyo Skytree Town
     แม้จะเพิ่งมาโตเกียวครั้งแรกก็ขึ้นรถ SKYTREE SHUTTLE ไปลงที่ TOKYO SKYTREE TOWN เพื่อป้องกันความสับสนเรื่องสถานีปลายทางได้ (สถานีปลายทาง) Tokyo,Ueno/Asakusa, สนามบินฮาเนดะ [ Tokyo Disney Resort ], Wakoshi / Asakadai/Shiki  **ดูรายละเอียดเพิ่อมเติมที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ TOBU Bus

หมายเหตุ
[ทั่วไป]
  • พนักงานจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่อาจเข้าไปรบกวนผุ้อื่นผ่านเข้าไป และจะเชิญให้ผู้เยี่ยมชมที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบออก
  • บริษัท TOBU TOWER SKYTREE และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบต่ออุบัติเหตุ การบาดเจ็บการสูญเสีย โจรกรรม หรือความเสียหายอื่นๆที่มาจากพฤติกรรมที่ประมาทของผู้เขาชม
  • บุคคลที่เกี่ยวข้องกับองค์กรที่ก่ออาชญากรรมจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม
  • อาจมีการรายงานและถ่ายทำข่าวและช่องสื่ออื่นๆระหว่างช่วงให้บริการ ในเวลาดังกล่าว พนักงานอาจมีการกั้นเส้นทาง พื้นที่ชมวิว หรือบริเวณบางส่วนของ Tokyo Skytree อาจมีการบันทึกวีดิโอผู้เยี่ยมชม  หากได้รับอนุญาต
  • โปรดงดใช้กระเป๋าเดินทางหรือสิ่งของอื่นๆ เพื่อไม่เป็นการกินที่ผู้อื่น
  • โปรดอย่าใช้โทรศัพท์มือถือในสถานที่ที่การทำเช่นนั้นอาจรบกวนผู้อื่น

[สิ่งของต้องห้าม]
  • ห้ามนำสิ่งของที่เป็นอันตรายหรือสิ่งของอื่นๆที่ TOKYO SKYTREE ห้ามเข้าไปในพื้นที่โดยเด็ดขาด  ผู้เข้าชมทุกคนจะต้องผ่านการตรวจสอบสัมภาระและเดินผ่านเครื่องตรวจโลหะที่ทางเข้า
  • ไม่อนุญาตให้นำสัตว์อื่นๆ ที่นอกเหนือจากสุนัขช่วยเหลือผู้ทุพพลภาพ (สุนัขที่ถูกฝึกให้ช่วยเหลือผู้ทุพพลภาพ) เข้ามาใน TOKYO SKYTREE (โปรดทราบว่าไม่มีบริการฝากสัตว์เลี้ยงในสถานที่)

[อาหารและเครื่องดื่ม/บุหรี่]
  • แท่นชมวิวเป็นเขตห้ามสูบบุหรี่ ผู้เยี่ยมชมที่ต้องการสูบบุหรี่จะต้องใช้ห้องสูบบุหรี่ที่จัดเตรียมไว้ให้ อนุญาตให้รับประทานอาหารและเครื่องดื่มได้ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้เท่านั้น

[อื่นๆ]
  • TOKYO SKYTREE อาจหยุดการทำงานของลิฟต์หรือปิดลิฟต์ได้เนื่องจากลมแรงหรือสภาพภูมิอากาศที่ไม่ดีเพื่อตรวจสอบและบำรุงรักษา หรือด้วยเหตุผลอื่นๆ
  • วิวอันสวยงามบน TOKYO SKYTREE อาจมองเห็นไม่ชัดเจนเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย
  • โปรดเดินด้วยความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บภายใน Tokyo Skytree โดยเฉพาะระหว่างการเปิดและปิดประตู หรือใช้ลิฟต์ บันไดเลื่อน และขึ้นบันได
  • ระหว่างที่มีผู้เข้าชม Tokyo Skytree จำนวนมาก พนักงานอาจมีการกั้นเส้นทาง พื้นที่ชมวิวหรือบริเวณบางส่วนของสถานที่
  • วัน ชั่วโมง และข้อกำหนดในการให้บริการสำหรับแท่นชมวิวและร้านค้าปลีกอาจเปลี่ยนแปลงดดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • รถไฟ รถประจำทาง และการขนส่งสาธารณะประเภทอื่นๆ เป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกมายัง Tokyo Skytree

หากมีคำถาม
Call Center TOKYO SKYTREE
0570-55-0634 (เวลาทำการ 09:00-20:00)
*โปรดโทรไปที่ +81-(0)3-5302-3470 เมื่อใช้โทรศัพท์ PHS โทรศัพท์อินเตอร์เน็ทต่างประเภท หรือโทรจากต่างประเทศ

TOKYO SKYTREE
เวลาทำการ 08:00-22:00 (เปิด 365 วันเวลาทำการอาจเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของปี)
ที่อยู่ : 1-1-2 Oshiage, Sumida-Ku,Tokyo,Japan

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Tokyo Skytree
www.tokyo-skytree.jp/en/

Facebook อย่างเป็นทางการของ Tokyo Skytree
http://www.facebook.com/TOKYOSKYTREE.official

[TOKYO SKYTREE ได้รับรางวัลสองดาวจาก Michelin Green Guide Japan]
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : TOBU GROUP TOKYO SKYTREE
ขอบคุณภาพสวยๆจาก : http://japan-photo.jnto.go.jp/
เรียบเรียงโดย : บริษัท วิสม่า ทราเวล จำกัด 
วิสม่า พาเที่ยว