29 กรกฎาคม 2558

10 เมนูน่าลอง @ ฮ่องกง

10 เมนูน่าลอง @ ฮ่องกง
        ฮ่องกงไม่เพียงเป็นสวรรค์ของนักช้อป แต่ยังเป็นสวรรค์ของเหล่านักชิมด้วย เรียกว่ามีตั้งแต่อาหารราคาถูกไปจนถึงโต๊ะเหลาราคาแพงหลายหมื่นเลยที่เดียว แต่ที่จะแนะนำนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ใครต่อใครต่างนิยมไปกินกัน
        ติ่มซำ

        เมนูแนะนำที่ต้องกินให้ได้เมื่อมาฮ่องกง เพราะแต่ละร้านจะมีความหลากหลายและมีจานเด็ดเป็นของตัวเองแตกต่างกันไป ที่สำคัญติ่มซำแทบทุกร้านของที่นี่จะสดใหม่, สะอาด, รสชาติดี และใส่เครื่องเยอะมาก (กุ้งตัวโตหรือเนื้อปูล้วนๆ ไม่ผสมอะไร) จนทำให้คุณลืมไม่ลงไปอีกนานเลยค่ะ
        โจ๊กฮ่องกง

        ดูจากชื่อเมนูแล้วอาจจะธรรมดา อยู่เมืองไทยก็หากินได้ แต่บอกได้เลยว่าโจ๊กฮ่องกงเขามีสูตรต่างจากบ้านเรามาก (โดยเฉพาะเนื้อข้าวที่แสนจะเนียนนุ่ม) แถมมีเครื่องเคียงชิ้นโตที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพให้เลือกหลายประเภททีเดียว ทั้งโจ๊กกุ้ง, โจ๊กหมู, โจ๊กไข่เยี่ยวม้า, โจ๊กปลา, โจ๊กเป่าฮื้อ, โจ๊กเครื่องในหมู ฯลฯ
  
        บะหมี่เกี๊ยว

        หากมาฮ่องกงแล้วไม่ได้ชิมบะหมี่เกี๊ยวสักมื้อ ก็เหมือนมาเมืองไทยแล้วไม่ได้ชิมส้มตำยังไงยังงั้น เพราะเส้นบะหมี่ฮ่องกงเขามีเอกลักษณ์ค่ะ (เรียวเล็ก) อีกทั้งยังทำสดๆ ด้วยมือ เมื่อบวกกับเกี๊ยวแป้งแผ่นบางที่อัดแน่นไปด้วยกุ้งตัวโต พร้อมน้ำซุปสูตรต้นตำรับของแต่ละร้าน งานนี้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม
        ของย่างสูตรฮ่องกง

        เมนูของย่างจำพวกเป็ดย่าง, ห่านย่าง, หมูแดง หรือหมูกรอบ ถึงจะดูเป็นเมนูพื้นๆ แต่ด้วยความที่เนื้อค่อนข้างนุ่ม หนังกรุบกรอบนิดๆ รสหวานด้วยน้ำผึ้งธรรมชาติ แล้วเสิร์ฟชิ้นโตๆ แบบเต็มปากเต็มคำ จึงเป็นอะไรที่ห้ามพลาดเด็ดขาด
        อาหารทะเล

        ฮ่องกงเป็นเมืองชายฝั่งติดทะเล อาหารทะเลประเภทกุ้งสด, ปูเป็น หรือปลาสด ฯลฯ จึงมีให้ชิมกันอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าใครอยากจะกินแบบให้ได้อารมณ์ ต้องไปยืนเลือกอาหารทะเลสดๆ จากตู้ ท่ามกลางบรรยากาศคลื่นกระทบฝั่ง อย่างที่หมู่บ้านประมงเหลยเยวี่ยมุน หรือเกาะลัมมาก็ได้ค่ะ
        น้ำเต้าหู้-ปาท่องโก๋

        เมนูจานด่วนที่เรียกความสดชื่นยามเช้าได้ในราคาเบาๆ (อิ่มอร่อยสบายท้อง) โดยปาท่องโก๋ของฮ่องกงจะตัวใหญ่และยาวกว่าบ้านเรามาก ที่สำคัญเข้ากันกับความหวานนิดๆ ของน้ำเต้าหู้ได้อย่างดี
        ทาร์ตไข่

        แม้ว่าทาร์ตไข่ของฮ่องกงจะดูมีรูปร่างหน้าตาต่างจากของมาเก๊า แต่หลายคนที่ได้ไปชิมมาก็บอกว่าอร่อย ฉะนั้นถ้ามีโอกาสเดินผ่านหน้าร้านทาร์ตไข่ก็ควรลองชิมสักนิด อาจติดใจเหมือนอดีตผู้ว่าฯ ฮ่องกง “คริส แพตแทน (Chris Patten)” ที่หลงใหลจนต้องไปกินเป็นประจำในช่วงที่เป็นผู้ว่าฯ ฮ่องกงก็เป็นได้
        ลูกชิ้นริมทาง
        
        ลูกชิ้นริมทางเป็นของว่างที่สามารถหากินได้ทั่วไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งมีทั้งลูกชิ้นหมู-ไก่-เนื้อ-กุ้ง-ปลา, หนวดปลาหมึก, ไส้กรอก, เครื่องในวัว, ขนมจีบ, เต้าหู้ ฯลฯ โดยมีให้เลือกว่าจะต้มกับน้ำเครื่องแกง (คล้ายแกงกะหรี่) หรือทอด (ปกติสั่งมาแล้วคนฮ่องกงจะยืนกินหน้าร้านเลย เพราะถ้าเดินกินอาจโดนคนเดินชนได้ ที่สำคัญยังมีที่ทิ้งขยะตรงนั้นด้วย)   
ขนมปังสไตล์ฮ่องกง

        เฟรนช์โทสฮ่องกง, แซนด์วิชไข่คน, ชีสเบอร์เกอร์ และขนมปังสับปะรด เป็นเมนูขนมปังที่ทำให้หลายคนติดใจมาแล้ว เพราะเมนูเหล่านี้เป็นอาหารคาวสไตล์ฮ่องกง (เป็นสูตรเฉพาะของแต่ละร้าน) ที่นิยมกินกันในมื้อเช้า
        ขนมเค้ก

        ขนมเค้กเป็นอีกอย่างที่อยากจะแนะนำ เพราะหน้าตาบวกรสชาติของเนื้อเค้กแล้ว หากไม่ได้ลองชิมก็เสียดายแย่เลย สำหรับจุดเด่นของเค้กที่นี่คงเป็นการตกแต่งหน้าตา ที่มักจะใช้ผลไม้สดตามฤดูกาลมาช่วยสร้างความอร่อย
        เค้กพุดดิ้ง

        พุ่ยชายโค (Put Chai Ko) หรือเค้กพุดดิ้งเป็นขนมฮ่องกงแบบโบราณ ที่สมัยนี้หากินได้ยาก แต่ก็ยังพอมีให้อยู่บ้างตามร้านเก่าแก่หรือตลาดท้องถิ่นอย่าง ตลาดมงก๊ก เป็นต้น โดยมีให้เลือกหลายรส ทั้ง น้ำตาลทรายแดง, น้ำตาลทรายแดงและถั่วแดง เป็นต้น รสชาติหวานกลมกล่อมและหอมชวนชิม


ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก หนังสือ ฮ่องกง คู่มือเที่ยวตามใจชอบ
เรียบเรียงโดย บริษัท วิสม่า ทราเวิล จำกัด
วิสม่า พาเที่ยว                    













7 กรกฎาคม 2558

เรียนรู้มารยาทในการสักการะศาลเจ้าที่ญี่ปุ่น

เรียนรู้มารยาทในการสักการะศาลเจ้าที่ญี่ปุ่น
            ชินโตถือเป็นศาสนาเก่าของประเทศญี่ปุ่น เมื่อคุณมีโอกาสได้ไปเยือนศาลเจ้าชินโต คุณควรเรียนรู้มารยาทหรือธรรมเนียมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าสักการะขอพรเทพเจ้า และการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องเมื่ออยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าเอาไว้สักเล็กน้อย ถ้าพร้อมแล้วไปเรียนรู้ทริคเล็กๆ น้อยๆ กับซากุระและน้องหมีคุมาตะกันเลย...
1.       การเดินผ่านประตูโทริอิ


ที่ทางเข้าของศาลเจ้า มักจะมีประตูสีแดงตั้งอยู่ หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “โทริอิ (Torii)” ก่อนที่จะเดินผ่านประตูนี้ไปนั้น คุณควรเช็คความเรียบร้อยของชุดที่สวมใส่อีกครั้ง และแสดงความเคารพต่อเทพเจ้าแห่งศาลเจ้านั้นๆ ด้วยการโค้งลงเล็กน้อยเพราะคนญี่ปุ่นเชื่อกันว่า วิญญาณของเหล่าเทพเจ้าจะใช้บริเวณนี้เป็นทางผ่านสู่หอหลักภายในศาลเจ้า เพราะฉะนั้นคุณก็ควรเดินไปตามเส้นทางหลักนี้ เช่นเดียวกันทั้งขาเข้าไปและขากลับ นอกจากนี้คุณยังไม่ควรส่งเสียงดังหรือวิ่งไปวิ่งมาภายในบริเวณศาลเจ้าด้วยค่ะ
2.       การชำระล้างร่างกายให้สะอาด ที่อ่างน้ำ “Chozusha”
ก่อนที่จะเข้าไปสักการะศาลเจ้า ที่ในบริเวณใกล้เคียงคุณจะสังเกตเห็นศาลาที่มีอ่างน้ำเล็กๆ ตั้งอยู่ ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “โจซึชะ (Chozusha)” สร้างไว้สำหรับผู้ที่มานมัสการศาลเจ้าได้ชำระล้างมือและปาก หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า พิธีกรรม “มิตาราชิ (Mitarashi)” เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่เชื่อกันว่าเป็นการชำระล้างร่างกายให้สะอาด ปราศจากสิ่งสกปรกจากภายนอก ก่อนเข้าสักการะเทพเจ้า
·       เริ่มจากการหยิบกระบวยด้วยมือขวา ตักน้ำที่ไหลออกจากก๊อกน้ำที่ทำจากไม้ไผ่ แล้วค่อยๆล้างมือซ้ายก่อนเป็นอันดับแรก
·       เปลี่ยนมาจับกระบวยมือซ้าย ตักน้ำแล้วค่อยๆ ล้างมือขวา
·       หลังจากนั้นเปลี่ยนมือจับกระบวยเป็นมือขวาอีกครั้ง ตักน้ำใส่มือซ้ายแล้วใช้น้ำนั้นกลั้วปากเบาๆ (เพื่อสุขอนามัยที่ดี ไม่ควรเอาปากสัมผัสกับกระบวยโดยตรง)
·       ลำดับสุดท้ายให้ใช้น้ำที่เหลือในกระบวยล้างด้ามจับ แล้วคืนกระบวยนั้นกลับที่เดิม
3.       การเคารพสักการะเทพเจ้า

เมื่อชำระล้างมือแล้ว เดินตามทางไปยังหอหลัก เพื่อเคารพสักการะเทพเจ้า วิธีการไม่ยาก เพียงยืนในท่าตรงแขนแนบลำตัวแล้วโค้งคำนับ จากนั้นให้โยนเงินเหรียญลงไปในกล่องด้านหน้า ไม่มีข้อกำหนดว่าเป็นจำนวนเงินเท่าไร แต่โดยส่วนใหญ่แล้วชาวญี่ปุ่นมักจะโยนเหรียญ 5 เยน หรือ 10 เยน จะมากหรือน้อยนั้นตามศรัทธาและพรที่คุณขอต่อเทพเจ้า จากนั้นให้สั่นระฆังที่ถูกห้อยลงมาจากเพดาน กลับสู่ท่ายืนตรงอีกครั้งหนึ่ง แล้วโค้งคำนับ (90 องศา) อีก 2 ครั้ง ตามด้วยปรบมืออีก 2 ครั้ง สุดท้ายให้โค้งคำนับอีก 1 ครั้ง หากคุณต้องการขอพรจากเทพเจ้า ควรอธิษฐานภายในใจระหว่างที่โค้งคำนับครั้งสุดท้าย (แตกต่างจาการสักการะในวัดแบบพุทธตรงที่ไม่ต้องปรบมือ เพียงแค่พนมมือสองข้างประกบกันแล้วอธิษฐานในใจเท่านั้น)
4.       ก่อนกลับออกจากศาลเจ้า

ภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนต่างๆ คุณสามารถโค้งคำนับสั้นๆ ได้อีกหนึ่งครั้งที่หอหลักและที่ประตูโทริอิ นอกจากนี้ในศาลเจ้าบางแห่ง คุณสามารถซื้อ “สลากศักดิ์สิทธิ์” หรือ “โอมิคุจิ (Omikuji)” เพื่อเสี่ยงโชคลุ้นรับคำทำนายดวงชะตาได้ ใครได้คำทำนายในทางที่ดีจะนำกลับบ้านก็ได้ แต่หากคุณจับได้โอมิคุจิที่ทำนายว่าได้โชคไม่ดี ก็สามารถผูกไว้กับที่ที่ทางศาลเจ้าจัดไว้ให้ แต่ขอความกรุณาห้ามนำไปผูกไว้ตามต้นไม้หรือทิ้งไว้ไม่เป็นที่ทางนะคะ ศาลเจ้าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนญี่ปุ่น การกระทำใดๆ เหล่านั้นถือเป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาดค่ะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก นิตยสาร Wattention ฉบับเดือน พฤษภาคม – กรกฎาคม 2558
เรียบเรียงโดย บริษัท วิสม่า ทราเวิล จำกัด
 
วิสม่า พาเที่ยว