19 มกราคม 2559

หลงเสน่ห์ฮอกไกโด ตอน โจซังเกเมืองห้องลับแห่งซัปโปะโระ

หลงเสน่ห์ฮอกไกโด ตอน โจซังเก ( เมืองห้องลับแห่งซัปโปะโระ )

โจซังเก ( JOZANKEI )

แผนที่เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
ภาพเมืองโจซังเก (จากดาวเทียม)


              โจซังเก  ( Jozankei ) แห่งฮอกไกโด


โจซังเก เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ใกล้กับตัวเมืองซับโปโรจึงถูกเรียกว่าเป็นห้องลับสำหรับพักผ่อนของซัปโปะโระ เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่มีโรงแรมใหญ่น้อยจำนวนมากเรียงรายอยู่นอกจากนี้ก็ยังมีชื่อเสียงในด้านเป็นเมืองที่เหมาะกับการชมใบไม้เปลี่ยนสี


เมืองน้ำพุร้อนโจซังเก

1. เมืองน้ำพุร้อนโจซังเกและสะพานแขวนฟุตะมิ

          กลิ่นอายของน้ำพุร้อนล่องลอยไปทั่วเมืองอนเซ็นที่มีโรงแรมและเรียวกังเรียงรายอยู่เกือบ20แห่ง โรงแรมที่รับลูกค้าสำหรับมาเพียงเพื่อเข้าออนเซ็นโดยไม่ต้องเข้าพักก็มีหลายแห่ง สะพานแขวนฟุตะมิที่ตั้งคร่อมแม่น้ำโทโยะฮิระเป็นจุดที่ไม่ควรพลาดในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี หน้าร้อนมองจากสะพานลงไปยังที่อยู่อาศัยของกัปปะที่มีสีเขียวเข้มแลดูงามตา
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JRซัปโปะโระนั่งโจเตะสึบัส ใช้เวลา 1 ชม.10 นาที ลงที่ป้าย “Jozankei

สะพานแขวนฟุตะมิ

ภาพเมืองโจซังเก

2. ศาลเจ้าแม่กวนอิมอิวะโตะคันนงโดะ

          ภายในถ้ำมีรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิม 33 รูปเรียงรายอยู่ เชื่อกันว่าใครเข้าไปคาราวะแล้วจะมีโชคลาภต่างๆ เช่นโชคในเรื่องรัก โชคในเรื่องเรียน เป็นต้น
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JRซัปโปะโระเตะสึบัส 1 ชม. 10 นาที ลงที่ “Jozankei” จากนั้นเดิน 
5 นาที



3. ซัปโปะโระพิริกะโคะตัน

          สถานที่ศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ การใช้ชีวิตของชนเผ่าไอนุ ในห้องจัดแสดง มีเสื้อผ้าพื้นเมือง เครื่องมือ เครื่องใช้ประมาณ 300 ชิ้นจัดแสดงอยู่
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR ซัปดปะโระโจเตะสึบัส 1 ชม. ลงรถที่ “Koganeyu” จากนั้นเดิน 
6 นาที


ซัปโปะโระพิริกะโคตัน

4. น้ำตกชิไรโตะ

          น้ำตกที่มีความงาม มีวิวสวยงามโดยเฉพาะ ช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างต้นหน้าร้อนจนถึงฤดูใบไม้ร่วง เป็นจุดที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟJRซัปโปะโระนั่งโจเตะสึบัส 1 ชม. 10 นาที ลงรถที่ “shiraito-no-taki” จากนั้นเดิน 10 นาที

ภาพวิวน้ำตกชิไรโตะ


5. โฮเฮเคียว

          เขื่อนโฮเฮเคียว เป็นเขื่อนเก็บน้ำของเมือง ซัปโปะที่ตั้งอยู่ในช่องแคบในหุบเขา จุดนี้สวยงามในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี มีคนจำนวนมากมาที่นี่ด้วยการปีนเขามาจากเมืองน้ำพุร้อนโจวังเก-ออนเซ็น
การเดินทาง : จากโจซังเก-อนเซ็นนั่งแท็กซี่ 10 นาทีจากประตูเข้าสู่เขื่อนนั่งรถบัสไฟฟ้าอีก 5 นาที

ภาพเขื่อนโฮเฮเคียว

6. สวนสาธารณะโจซังเก็นเซ็ง

           มีรูปปั้นของ “มิซุมิโจซัง” ผู้ค้นพบโจซังเก นอกจากนี้ก็มี “บ่อน้ำพุร้อนสำหรับแช่เท้า” “บ่อต้มไข่” ซึ่งใช้น้ำพุร้อนจากแหล่งกำเนิดที่มีอุณหภูมิสูง
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR ซัปโปะโระนั่งโจเตะสึบัส 1 ชม. 10 นาที ลงรถที่ “Jazankei”

บ่อน้ำร้อนเมืองโจซังเก


7. อนเซ็นสำหรับแช่เท้าและแช่มือ

ภายในย่านน้ำพุร้อนโจซังเก มีน้ำพุร้อนโจซังเก มีน้ำพุร้อนสำหรับแช่มือและแช่เท้ากระจัดกระจายอยู่หลายแห่งสามารถแช่ฟรีได้

ภาพอนเซ็นของเมืองโจซังเก

ภาพอนเซ็นของเมืองโจซังเก

8. ถนนโคมหิมะโจซังเก

เมืองออนเซ็นในช่วงหิมะจะต้อนรับผู้มาเยือนด้วยแสงไฟอันนุ่มนวลจากโคมหิมะที่ภายในศาลเจ้าโจซังเกมีการประดับด้วยโคมไฟหิมะกว่า 2000 อัน
ที่อยู่ 218, Jozankei, Minami-ku, Sapporo  ช่วงเวลา ต้นเดือนกุมภาพันธุ์


ภาพถนนโคมหิมะโจซังเก

และเพื่อนๆยังสามารถติดตามข่าวสารข้อมูลการท่องเที่ยวและบทความที่น่าสนใจอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/wismatravel
แล้วมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยวกันได้ในบล็อกของเรานะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Central Hokkaido องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวฮอกไกโด
ขอบคุณภาพสวยๆจาก : http://japan-photo.jnto.go.jp
เรียบเรียงโดย : บริษัท วิสม่า ทราเวล จำกัด
โดย.....Admin Cesar















10 มกราคม 2559

แนะนำ 9 แห่งผจญภัยในดินแดนหิมะแห่งประเทศญี่ปุ่น Part.2 The End

แนะนำ 9 แห่งผจญภัยในดินแดนหิมะแห่งประเทศญี่ปุ่น   

Snow Land Adventure!!!
(Part 2 -The End)
                       จากที่ได้นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่น่าจะไปเยือนช่วงฤดูหนาวไป 4 แห่งแล้ว วันนี้แอดมินจะขอนำเสนอที่ 5 แห่งที่เหลือ มาให้ได้ติดตามอ่านกันต่อค่ะ เริ่มกันที่ แห่งที่ 5

5.ISHIKAWA ตลาดเก่าเล่าเรื่องเมืองคานาซาวะ  เมืองคานาซาวะที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอิชิกาว่า เป็นที่รู้จักในแง่ของเมืองโบราณที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเปี่ยมศิลปะและวัฒนธรรมดั้งเดิมแบบญี่ปุ่น นอกจากปราสาทคานาซาวะและสวนเคนโรคุเอนอันโด่งดังแล้ว ตลาดเก่าคืออีกหนึ่งสถานที่น่าไปเยือน นั่นคือตลาดโอมิโจ ตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองคานาซาวะที่ยังไว้ซึ่งกลิ่นอายแบบเอโดะกับร้านค้าริมทางที่มีมากกว่า 200 ร้าน โดยเฉพาะร้านอาหารริมทางและร้านขายวัตถุดิบสดๆจากทะเล แนะนำให้มาช่วงเช้าบรรยากาศกำลังสบาย แต่ถ้าชอบคึกคักให้มาซักราวๆเที่ยง อย่าลืมลองเมนูไคเซนดัง ซีฟู้ดสดๆที่โป๊ะหน้ามาในชามข้าว อร่อยและไม่แพงเลย





6.HYOGO เมืองออนเซ็นโบราณ 1,400 ปีแห่งเฮียวโงะ  คิโนชากิออนเซ็นเป็นย่านออนเซ็นเห่าแก่กว่า 1,400 ปี ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ เมืองคิโนซากิ ออนเซ็นที่ผสมผสานทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และบรรยากาศเก่าแก่ เสน่ห์ของเรือนไม้หลังเก่าที่เรียงรายเลียบคลองเส้นเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยต้นหลิว บวกกับการได้เห็นชาวญี่ปุ่นในชุดยูกาตะเดินเตร็ดเตร่ไปมาในย่านนี้ คือสีสันที่ดึงดูดใจให้ใครต่อใครอยากมาสัมผัสกับเสน่ห์แบบญี่ปุ่นวันวาน เสมือนหนึ่งการได้ย้อนเวลา



 7.TOYAMA การแสดงของปลาหมึกหิ่งห้อย แห่งอ่าวโทยามะ คือ เหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวมากมายดั้นด้นมาที่จังหวัดโทยามะ ทว่าเจ้าปลาหมึกก้ไม่ได้สร้างรายได้แค่ในมิติของอาหาร แต่ความสามารถพิเศษของการเรืองแสงได้ของมันถูกนำมาพัฒนาเป็นโชว์มหัศจรรย์ที่สามารถชมได้ในพิพิธภัณฑ์โฮตารุอิกะแห่งเมืองนาเมริคาวะ และที่ขาดไม่ได้คือการลิ้มลองรสชาติของปลาหมึกหิ่งห้อยที่สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายเมนู




8.TOCHIGI ย่านออนเซ็นและเทสกาลหิมะบนภูเขา ยุนิชิกาวะออนเว็นตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาในจังหวัดโทจิกิ ในตำแหน่งที่อยู่สูงขึ้นไปจากออนเซ็นยอดนิยทอย่างคินุกาวะ แม้ปกติจะเที่ยวได้ทั้งปีแต่เสน่ห์ของยุนิชิกาวะออนเซ็นในหน้าหนาวกับการได้ทิ้งกายแช่ออนเซ็นอุ่นๆในบรรยากาศเอาท์ดอร์ที่มีหิมะโปรายปรายคือความพีคที่สุดในรอบปี หรือจะไปเล่นสนุกท่ามกลางหิมะพร้อมๆกับ ชมกระท่อมน้ำแข็งคะมะคุระที่เต็มไปด้วยแสงไฟในยามค่ำคืนใรเทศกาลคะมะคุระก็เข้าท่าดี 
ช่วงเทศกาลคือ 23 มกราคา – 6 มีนาคม 2016 



9.KYOTO ความจริงที่วัดทองของเกียวโต คินคะคุจิหรือวัดทองแห่งเมืองกียวโตที่คนไทยรู้จักกันดี ภายในประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนของวัดและตำหนักทอง 2 ชั้นที่ถูกตกแต่งไว้ด้วยทองคำเปลว ในยามที่หิมะปกคลุมตัวตำหนักยิ่งเป็นภาพที่สวยงามจับใขจและก็เป็นเพราะความโดเด่นของตัวตำหนักทองนี่เอง ที่ทำเอาใครหลายคนเข้าใจผิดว่าตำหนักทองหลังนั้นคือตัววัด ทั้งๆที่ตัววัดคินคะคุจิจริงๆจะอยู่อีกฝั่ง



ต่างฤดูกาลต่างก็ได้รับทัศนียภาพแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ยังคงอยู่ให้ได้รับรู้จากสายตาที่มองเห็นนั้นคือ ความงดงามของสถานที่ที่เราได้ไปเยือนนั่นเอง

และเพื่อนๆยังสามารถติดตามข่าวสารข้อมูลการท่องเที่ยวและบทความที่น่าสนใจอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/wismatravel/
แล้วมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยวกันได้ในบล็อกของเรานะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : TRAVEL Lover Vol.02
ขอบคุณภาพสวยๆจาก : http://japan-photo.jnto.go.jp
เรียบเรียงโดย : บริษัท วิสม่า ทราเวล จำกัด
โดย.....Admin Cesar



8 มกราคม 2559

แนะนำ 9 แห่งผจญภัยในดินแดนหิมะแห่งประเทศญี่ปุ่น   
( Part.1 )

   Snow Land Adventure!!!

อย่างที่ใครหลายคนบอก ญี่ปุ่นฤดูไหนก็น่าเที่ยว แม้ในช่วงฤดูที่หนาวสุดๆก็ยังน่าเที่ยว เพราะหน้าหนาวของญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่หิมะขาวๆ แต่ยังมีประสบการณ์ท้าลมหนาวให้ไปสัมผัสได้ไม่ซ้ำ และต่อไปนี้คือสถานที่น่าเที่ยวในแต่ละจังหวัดของญี่ปุ่นที่เราอยากจะแนะนำให้คุณไปสัมผัสดูสักครั้ง แล้วคุณจะพบว่าหน้าหนาวญี่ปุ่นนี่เป็นฤดูแห่งความสนุกสนานจริงๆ
ความหนาวเย็นในญี่ปุ่นจะเริ่มตั้งแต่พฤศจิกายนไปจนถึงมกราคมโดยประมาณ ลมหนาวจะค่อยๆไล่ตั้งแต่ทางเหนือลงไปทางใต้  ซึ่งจังหวัดที่อยู่ทางฝั่งทะเลญี่ปุ่นจะหนาวกว่าทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก สำหรับฮอกไกโดจะมีช่วงหนาวที่ยาวนานกว่าที่อื่นโดยหิมะจะเริ่มตกตั้งแต่พฤศจิกายนไปจนถึงเมษายน ทั้งนี้ สภาพอากาศอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละปี

1.NAGANO เสน่ห์ลิงหิมะแห่งนากาโน่ ดินแดนที่เป็นเหมือนหลังคาของประเทศญี่ปุ่น อันเนื่องมาจากภูมิประเทศที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันหลากหลาย แต่ที่อยากแนะนำพิเศษคือจิโกะคุดะนิยะเอน ย่านน้ำพุร้อนที่เต็มไปด้วยลิงหิมะ ลงมาแช่ออนเซ็นในช่วงหน้าหนาว หรือถ้าเบื่อเที่ยวป่าเขา จะหลบเข้ามาเที่ยวในเมืองก็เข้าท่า โดยเฉพาะปราสาทมัตสึโมโต้หรือปราสาทอีกาที่ต้องถือว่าห้ามพลาด เพราะนี่คือปราสาทไม่กี่หลังในญี่ปุ่นที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิมตั้งแต่แรกที่เริ่มสร้างในช่วงปี ..1952 โดยไม่ถูกเผาทำลายเหมือนปราสาทส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น มรดกแห่งชาติระดับนี้หาดูยากมาก




2.GIFU หลงเสน่ห์ความโบราณแห่งกิฟุพูดถึงจังหวัดกิฟุ ใครๆก็ต้องนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่างชิราคาวะดกะ หมู่บ้านชาวนาโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี เรื่องความน่าสนใจไม่ต้องพูดถึงมาก การันตีความดีงามได้จากการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกมาแล้วในปี ..1995 ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากพูดถึง สำหรับใครที่หลงเสน่ห์กลิ่นอายเมืองเก่าแบบญี่ปุ่นแนะนำให้ลองมาแวะมาเดินเล่นที่เมืองเก่าทาคายามะดูสักครั้ง บรรยากาศเมืองโบราณสมัยเอโดะ ในโลเกชั่นที่รายล้อมไปด้วยหุบเขา เสน่ห์ของอาคารบ้านเรือน ปราสาทบนยอดเขาโรงน้ำชากาแฟ ร้านอาหารไปจนถึงโรงกลั่นสาเก ส่วนใหญ่ก็ยังคงสภาพเดิมเหมือนเมื่อครั้งอดีตเอาไว้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะถนนสายซันโนะมาจิที่เป็นเหมือนย่านการค้าเก่าของบรรดาอดีตพ่อค้าผู้มั่งคั่งเมื่อครั้งอดีต บ้านเรือนหลายหลังถูกปรับให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่และงานฝีมือข้างในได้

3.YAMAKATA ออนเซ็นของโอชินและปิศาจหิมะ ยามากาตะ คืออีกหนึ่งจังหวัดทางภาคอีสานของญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องเมืองแห่งธรรมชาติและแหล่งออนเซ็นแสนบริสุทธิ์ โดยเฉพาะย่านกินซันออนเซ็น ซึ่งครั้งหนึ่งย่านนี้เคยเป็นเหมืองแร่เงินเก่าเมื่อราวๆ500ปีก่อน อาคารไม้หลังเก่าที่เรียงรายเลียบแม่น้ำกินซันทั้งสองฝั่งดูสวยงามและมีเสน่ห์ แถมย่านกินซันออนเซ็นยังเคยถูกใช้เป็นฉากหลังของละครระดับตำนาน อย่างเรื่องโอชินอีกด้วย ส่วนอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวน่าสนใจคือการนั่งกระเช้าไปชมปราสาทหิมะที่ภูเขาซาโอะ ตื่นตาตื่นใจไปกับรูปร่างของก้อนหิมะที่เกาะตัวหนาเตอะอยู่ตามต้นไม้แต่ละต้นจนกลายเป็นรูปทรงต่างๆที่ดูเหมือนปีศาจ



4.YAMANASHI ฟูจิซังสีฟ้าขาวหนาวจับใจ ฟูจิซังคือสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่หลายคนนึกถึงซึ่งหลายๆจังหวัดมีโลเกชั่นที่สามารถมองเห็นวิวอันแสนงดงามของภูเขาไฟฟูจิได้ แต่ถ้าหากเป็นช่วงฤดูหนาว เราขอแนะนำให้ไปสัมผัสกับฟูจิซังสีฟ้าขาวที่สวยงามแปลกตา ฟูจิเทน สโนว์พาร์ค ที่จังหวัดยามานาชิ สกีพาร์คชื่อดังที่ตั้งอยู่ในบริเวณตีนเขาของฟูจิซังเลยทีเดียว นอกจากวิวฟูจอซังกับเนินสกีที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้วที่นี่มังมีกิจกรรมสนุกๆ ท่ามกลางหิมะได้ทำอีกมากมาย แม้จะไม่ได้เล่นสกีก็ยังสนุกได้ ที่น่าสนใจคือการแยกสัดส่วนให้เด็กเล็กๆ เล่นสนุกกับหิมะได้อย่างปลอดภัยเต็มที่ แถมยังมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด

แล้วแอดมินจะรีบนำ อีก 5 เมืองที่ที่อยากแนะนำมาลงให้ได้ติดตามอ่านกันต่อ Part 2 นะคะ


และเพื่อนๆยังสามารถติดตามข่าวสารข้อมูลการท่องเที่ยวและบทความที่น่าสนใจอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่
แล้วมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยวกันได้ในบล็อกของเรานะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Travel Lover Vol.02
ขอบคุณภาพสวยๆจาก : http://japan-photo.jnto.go.jp
เรียบเรียงโดย : บริษัท วิสม่า ทราเวล จำกัด
โดย.....Admin Cesar